ชื่อ-สกุล ว่าที่ ร.ต.โดม เดชกุญชร
เดชกุญชรตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา
โรงเรียนเชียงยืนพิทยาคม
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษามหาสารคาม
สอนรายวิชา พลศึกษา
ครูที่ปรึกษานักเรียน ชั้น ม.6/1
ส่วนที่ 1 ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหน่ง
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567
1. ภาระงาน จะมีภาระงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 22 ชั่วโมง 50 นาที/สัปดาห์ ดังนี้
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชาพลศึกษา ม.5 จำนวน 7 คาบ/สัปดาห์
กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชาพลศึกษา ม.6 จำนวน 9 คาบ/สัปดาห์
กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชาสุขศึกษา ม.5 จำนวน 5 คาบ/สัปดาห์
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ชุมนุมกีตาร์โปร่ง จำนวน 1 คาบ/สัปดาห์
ชุมนุมรักษาดินแดน จำนวน 1 คาบ/สัปดาห์
หมายเหตุ เวลา 1 คาบ เท่ากับ 50 นาที
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 8 ชั่วโมง/สัปดาห์
การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
การวัดผลประเมินผลการเรียนรู้ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
การสร้างและพัฒนาสื่อการจัดการเรียนรู้ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
การมีส่วนร่วมในชุมชนทางวิชาชีพ (PLC) จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
การจัดทำวิจัยและพัฒนาผู้เรียน จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
งานที่ปรึกษา งานดูแลนักเรียน งานโฮมรูม เวรประจำวัน จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
เจ้าหน้าที่รับผิดชอบกลุ่มงานอาคารสถานที่ จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
งานโรงเรียนสีขาว/โรงเรียนคุณธรรม/โรงเรียนสุจริต จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
โรงเรียนวิถีพุทธ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
โรงเรียนดีสี่มุมเมือง จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
รวม 38 ชั่วโมง
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568
1. ภาระงาน จะมีภาระงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 22 ชั่วโมง 50 นาที/สัปดาห์ ดังนี้
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชาพลศึกษา ม.5 จำนวน 7 คาบ/สัปดาห์
กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชาพลศึกษา ม.6 จำนวน 9 คาบ/สัปดาห์
กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชาสุขศึกษา ม.5 จำนวน 5 คาบ/สัปดาห์
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ชุมนุมกีตาร์โปร่ง จำนวน 1 คาบ/สัปดาห์
ชุมนุมรักษาดินแดน จำนวน 1 คาบ/สัปดาห์
หมายเหตุ เวลา 1 คาบ เท่ากับ 50 นาที
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 8 ชั่วโมง/สัปดาห์
การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
การวัดผลประเมินผลการเรียนรู้ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
การสร้างและพัฒนาสื่อการจัดการเรียนรู้ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
การมีส่วนร่วมในชุมชนทางวิชาชีพ (PLC) จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
การจัดทำวิจัยและพัฒนาผู้เรียน จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
งานที่ปรึกษา งานดูแลนักเรียน งานโฮมรูม เวรประจำวัน จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
เจ้าหน้าที่รับผิดชอบกลุ่มงานอาคารสถานที่ จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
งานโรงเรียนสีขาว/โรงเรียนคุณธรรม/โรงเรียนสุจริต จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
โรงเรียนวิถีพุทธ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
โรงเรียนดีสี่มุมเมือง จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
รวม 38ชั่วโมง
ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู (วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ) ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง คือ การริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น
(ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาทักษะลีลาศ จังหวะชะชะช่า ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567
1. สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้
ปัจจุบัน อุปกรณ์สื่อสารดิจิตอล เช่น สมาร์ทโฟน มีผลต่อการเรียนรู้ของนักเรียน ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมลดลง จนทำให้เกิดปัญหาสุขภาพทุกด้านทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ละสังคม ครูผู้สอนจึงใช้กิจกรรมในวิชาลีลาศเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยพัฒนานักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 ด้วยกิจกรรมการเต้นลีลาศ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและใช้การเรียนแบบกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนซึ่งเป็นการส่งเสริมปฏิสัมพันธ์กับสังคมสร้างความสามัคคี และพัฒนาทางด้านจิตใจและอารมณ์ ได้ดียิ่งขึ้น
ดังนั้นครูผู้สอนจึงจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานประเด็นท้าท้าย การพัฒนาทักษะลีลาศ จังหวะชะชะช่า ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 ซึ่งจะส่งให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้น ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ มีการเรียนรู้แบบเพื่อนช่วยเพื่อนซึ่งช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ในกลุ่มซึ่งจะช่วยพัฒนาทั้งทางด้านอารมณ์และสังคม
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
2.1 ดําเนินการศึกษาและวางการการพัฒนาทักษะลีลาศ จังหวะชะชะช่า เพื่อสร้างเสริม ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อทักษะลีลาศและการเรียนรู้เป็นกลุ่มแบบเพื่อนช่วยเพื่อน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
2.2 ดําเนินการคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายนําการพัฒนาทักษะลีลาศ จังหวะชะชะช่า เพื่อสร้างเสริม ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อทักษะลีลาศและการเรียนรู้เป็นกลุ่มแบบเพื่อนช่วยเพื่อน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ไปใช้
2.3 ดําเนินการทดสอบทักษะลีลาศ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของกลุ่มเป้าหมาย ก่อนเข้าร่วมการฝึก
2.4 ทำการการพัฒนาทักษะลีลาศ จังหวะชะชะช่า เพื่อสร้างเสริม ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ทักษะลีลาศและการเรียนรู้เป็นกลุ่มแบบเพื่อนช่วยเพื่อน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย
2.5 ดําเนินการทดสอบทักษะลีลาศและการเรียนรู้เป็นกลุ่มแบบเพื่อนช่วยเพื่อน ของกลุ่มเป้าหมายหลังเข้าร่วมการฝึก
2.6 วิเคราะห์ และเปรียบเทียบผล ก่อนและหลังการฝึก
2.7 สรุปผลการฝึก และนํามาพัฒนาทักษะลีลาศ จังหวะชะชะช่า เพื่อสร้างเสริม ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ทักษะลีลาศและการเรียนรู้เป็นกลุ่มแบบเพื่อนช่วยเพื่อน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ทั้งหมดที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย มีทักษะลีลาศจังหวะชะชะช่า และมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้เป็นกลุ่มแบบเพื่อนช่วยเพื่อน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 อยู่ในระดับที่ดีขึ้น
3.2 เชิงคุณภาพ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ทั้งหมดที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ร้อยละ 80 มีทักษะลีลาศจังหวะชะชะช่า เจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้เป็นกลุ่มแบบเพื่อนช่วยเพื่อน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 อยู่ในระดับที่ดีขึ้น